ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ มีด้านสำคัญที่มักถูกระมัดระวังไม่เพียงพอ นั่นคืองานเอกสารเชิงบ่งชี้ นักพัฒนาใช้เวลามากๆ ในการสร้างโค้ด แต่หากไม่มีเอกสารที่ชัดเจนและอย่างมีระเบียบ เครื่องมือที่ใช้งานอาจจะสูญหาย ทำให้ผู้ใช้ทุกคนรู้สึกทับทิมและโครงการไม่สมบูรณ์ได้ อย่างไรก็ตาม มีเว็บไซต์ที่ชื่อ Read the Docs ที่เปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินการด้วยการให้บริการแพลตฟอร์มที่ง่ายและมีประสิทธิภาพในการจัดการและโฮสต์เอกสารโครงการ
Read the Docs ที่พร้อมใช้งานที่ https://readthedocs.org มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย สามารถช่วยให้นักพัฒนาสร้าง แก้ไข และเผยแพร่เอกสารโครงการได้อย่างไม่ยากจน รองรับภาษาโปรแกรมต่างๆ และมีการผสมระบบควบคุมเวอร์ชันที่นิยมอย่าง Git และ Mercurial Read the Docs ช่วยลดความยุ่งยากในการบำรุงรักษาเอกสารและการทำให้แน่ใจว่ามันคงอัพเดทเมื่อโค้ดมีการเปลี่ยนแปลง
หนึ่งในความได้เปรียบที่สำคัญของ Read the Docs คือความสามารถของการค้นหาที่แข็งแรงทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เว็บไซต์ยังมีประสบการณ์การอ่านที่ไม่มีข้อมูลรกก การเน้นรูปแบบ การเน้นไวยากรณ์ และคุณสมบัติเอกสารสื่อสาร นอกจากนี้ยังมีการติดตามเมตริกเพื่อติดตามว่าผู้ใช้มีการติดต่อกับเอกสารอย่างไร เพื่อช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจด้วยเรื่องที่ต้องปรับปรุง
แม้ว่า Read the Docs จะได้รับความนิยมมากในชุมชนนักพัฒนา แต่มันก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันจากแพลตฟอร์มที่คล้ายคลึงกัน ผู้แข่งคือ GitBook ที่มีฟังก์ชันที่คล้ายกันในการจัดการเอกสารโครงการ GitBook มีอินเตอร์เฟซที่สวยงามและสามารถใช้งานได้ง่าย มีตัวเลือกการผสมระบบควบคุมเวอร์ชัน มันยังมีคุณสมบัติการแก้ไขร่วมกัน ทำให้ง่ายสำหรับผู้ร่วมพัฒนาหลายคนที่จะทำงานเกี่ยวกับเอกสารในเวลาเดียวกัน
โดยเพิ่มเติม ผู้แข่งคือ Sphinx ที่เป็นเครื่องมือสร้างเอกสารที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในชุมชน Python Sphinx มีความสามารถในการกำหนดกำหนดเอกสารอย่างละเอียดและอนุมัตินักพัฒนาให้ใช้ reStructuredText หรือ Markdown ในการเขียนเอกสาร โดยยังรองรับรูปแบบผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน เช่น HTML PDF และ ePUB
จบคำพูด Read the Docs เป็นเครื่องมือที่มีค่ามากสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการลดความยุ่งยากในกระบวนการจัดการเอกสารของตน เอกสารที่ง่ายต่อการใช้ ความสามารถในการค้นหาที่แข็งแรง และการผสมระบบควบคุมเวอร์ชันที่นิยมสร้างเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับผู้ใช้หลายคน ผู้แข่งเช่น GitBook และ Sphinx ด้วยฟังก์ชันที่คล้ายตัวกัน แต่ Read the Docs ยังคงยืนออกไปด้วยความง่ายและประสิทธิภาพในการบำรุงรักษาเอกสารโครงการที่ชัดเจนและอัปเดตให้เข้ากับ (ออกอินทัส, 2018)